เรื่อง ขอแจ้งเตือนผู้อาจตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวงธุรกิจ สารพัดแชร์ ลูกโซ่ แชร์ข้าวสาร แชร์ก๋วยเตี๋ยว แชร์เว็บ
เนื่องจากปัจจุบันได้มีการกระทำความผิดของบุคคล หรือกลุ่มบุคคล เกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชนจำนวนมาก โดยการหลอกลวงให้ร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ ในลักษณะของแชร์ เช่น ธุรกิจแชร์ซื้อขายข้าวสาร ธุรกิจแชร์ซื้อขายแฟนไชร์ก๋วยเตี๋ยว ธุรกิจแชร์ลงทุนในเว็บไซต์ และการชักชวนให้ร่วมลงทุนในหลากรูปแบบมากมาย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI กระทรวงยุติธรรม รู้สึกเป็นห่วงต่อความปลอดภัยในทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน จึงขอแจ้งเตือน และให้ข้อมูล ข้อพึงระวังที่สามารถสังเกตเอง แก่พี่น้องประชาชน ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ดังนี้
1. พิจารณาจากจำนวนสินค้า หรือสิ่งของที่ได้รับจากการร่วมลงทุนในธุรกิจ หากมีการซื้อขายแต่ว่าไม่ได้รับสินค้า หรือสิ่งของใดในการร่วมลงทุน ให้ระวังไว้ว่า ท่านอาจกำลังตกเป็นเหยื่อในการหลอกลวง
2. หากได้รับสินค้าจากการลงทุนทำธุรกิจแชร์ แต่สินค้าที่ได้มาในการลงทุนไม่คุ้มกับจำนวนเงินที่ต้องเสียไป เช่น การฉ้อโกงธุรกิจแชร์น้ำมันเครื่อง หรือธุรกิจแชร์อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ จะถูกหลอกให้ร่วมลงทุน แล้วต้องหาลูกค้ารายอื่นๆ เข้ามาร่วมลงทุนต่อๆกันไป โดยแต่ละรายต้องลงทุนไปจำนวนเงิน 20,000 บาท แต่ได้สินค้าตอบแทนมาเพียง อุปกรณ์ล้างรถ และกระป๋องน้ำยาขัดรถ ราคารวมประมาณ1,500 บาทเมื่อพิจารณาจะเห็นได้ทันทีว่า ไม่คุ้มกับจำนวนเงินที่ชำระไป ซึ่งการกระทำโดยการให้สิ่งตอบแทนที่ไม่คุ้มกับราคานี้ เป็นเพียงการหลีกเลี่ยงกฎหมาย ให้มีลักษณะดูเสมือนว่าเป็นการซื้อขายกันจริงเท่านั้น
3. ในกรณีการชักชวนทำธุรกิจที่ไม่มีสินค้า แต่แอบแฝงมาในรูปแบบของบริการหรือมีลักษณะ ที่ไม่เป็นรูปธรรม จับต้องไม่ได้ เช่น ชักชวนลงทุนทำธุรกิจให้เช่าพื้นที่ในจัดทำเว็บไซต์ โดยจะมีการชักชวนประชาชนว่าเป็นการเข้าไปสมัครเช่า Hosting และทำธุรกิจโดยการให้เช่าพื้นที่ในการจัดทำเว็บไซต์ในลักษณะเช่าต่อๆกันไปหลายราย ดูเสมือนว่า มีการซื้อขายของกันจริง แต่ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในด้านคอมพิวเตอร์โดยทั่วไป จะทราบดีว่าการเปิดเว็บไซต์ในแต่ละเว็บไซต์จะมีค่าใช้จ่ายน้อยมาก ฟรีเว็บไซต์เลยก็มี และเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์ที่ทำการเปิดแทบที่จะมีค่าน้อยหรือไม่มีค่าใดๆเลย และที่สำคัญคนที่ต้องการจะจัดทำเว็บไซต์ จริงๆแล้ว ไม่จำเป็นจะต้องมาขอเช่าพื้นที่จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด
4. พิจารณาจากรายได้ผลตอบแทน จากการประกอบการของธุรกิจที่มีการชักชวนให้ร่วมลงทุน หากผลประกอบการมีลักษณะที่สูงเกินกว่าปกติ ที่สามัญชนในการประกอบการค้าประเภทนั้นๆ พึงได้ ให้สันนิษฐานได้ว่าน่าจะเข้าข่ายลักษณะของการฉ้อโกงประชาชนให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจแชร์ ที่ผิดกฎหมาย และอาจถูกหลอกลวงได้
5. การทำธุรกิจโดยการชักชวนประชาชนร่วมลงทุนในลักษณะเครือข่าย หรือลักษณะแชร์ลูกโซ่ หากถูกต้องตามกฎหมาย ธุรกิจเหล่านี้จะต้องทำการจดทะเบียนต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค โดยต้องทำการชี้แจงแผนการทำตลาดให้ สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ทราบในรายละเอียดของการประกอบธุรกิจที่ชัดเจนทุกขั้นตอน
6. พิจารณาจากที่ทำการที่ตั้งอันเป็นหลักแหล่ง ของผู้ประกอบการรวมทั้งการติดต่อของผู้ชักชวนให้ประกอบธุรกิจร่วมว่า มีที่ตั้งของสำนักงานในการประกอบธุรกิจที่แน่นอนหรือไม่ และสามารถที่จะติดต่อได้ตลอดเวลาทำการหรือไม่ หากมีการย้ายที่ประกอบการไปมาบ่อยครั้ง ปิดเว็บไซต์ หรือไม่สามารถที่จะติดต่อได้ น่าจะเป็นการประกอบธุรกิจเพื่อประสงค์ฉ้อโกงประชาชน
หากพี่น้อง ประชาชน พบธุรกิจที่เข้าข่ายข้อสังเกต ข้างต้นหรือประสบการโดนหลอกลวงด้วยตนเอง หรือแนะนำให้ผู้ที่ถูกหลอกลวง สามารถแจ้งเรื่องราว ได้ที่ ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขที่ 499 อาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น แขวง/เขต บางซื่อ จังหวัดกรุงเทพฯ (ช่วงระหว่าง สามแยกเตาปูนกับทางรถไฟ , อยู่ช่วงซอยประชาชื่น 13-14 )
อนึ่ง หากท่านมีญาติ พี่น้อง หรือบุคคลที่รู้จักถูกหลอกลวงตามลักษณะที่กล่าวมาแล้ว หรือพบเห็นการหลอกลวงดังกล่าว โดยเฉพาะบนเว็บไซต์ ขอได้โปรดช่วยกัน ทำการรวบรวมข้อมูล จัดเก็บพยานหลักฐานในเบื้องต้น Save หน้าจอ , เว็บเพจ, ข้อมูล hosting ที่เช่า Server ฯลฯ และมาแจ้งต่อ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ที่ dsi @ dsi.go.th เพราะภายหลังที่ทำการแจ้งความแล้ว เว็บไซต์ดังกล่าวมักจะมีการปิดตัวของธุรกิจเหล่านี้ลง หลักฐานต่างๆ อาจถูกทำลาย
หากเป็นไปได้ ขอความกรุณาช่วยกัน เผยแพร่คำเตือนนี้ ไปในวงกว้าง จักเป็น อนิสงค์ที่แรงกล้า และขอขอบพระคุณยิ่ง
แต่อย่างไรก็ดี ผมหวังไว้ว่า ไม่ขอให้มีผู้ใดถูกหลอกลวง จากกลุ่มมิจฉาชีพ เหล่านี้เลยจะดีกว่า
ด้วยความปรารถดี
พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน
ผู้บัญชาการสำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI กระทรวงยุติธรรม